มีใครเคยได้ยินรองเท้าวิ่งยี่ห้อนี้กันไหม? “Allbirds” นี่เป็นแบรนด์รองเท้ารุ่นน้องที่เปิดตัวมาเพียงแค่ 6 ปี แต่สามารถทำรายได้กว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบรนด์นี้มีต้นกำเนิดจากนิวซีแลนด์ ก่อตั้งโดย Tim Brown และ Joey Zwillinger
จุดเริ่มต้นของรองเท้าแบรนด์นี้ เริ่มจาก co-founder อย่าง Tim Brown ได้ไอเดียในการทำรองเท้าขึ้นมา ระหว่างที่เขาเป็นรองกัปตันทีมฟุตบอลอยู่ โดยก่อนหน้า Tim เคยศึกษาด้านธุรกิจ และเคยทำรองเท้าหนังให้เพื่อนมาก่อน ซึ่งทำให้ทราบถึงปัญหาของรองเท้าหนังต่าง ๆ ที่เวลาใส่แล้วทำให้ผู้สวมใส่ไม่สบาย
ในปี ค.ศ. 2014 Tim ได้รับเงินสนับสนุนวิจัยด้านอุสาหกรรมขนสัตว์สำหรับการผลิตสนีกเกอร์ และต่อยอดไอเดียในการผลิตรองเท้า ด้วยการระดมทุนใน Kickstarter ซึ่งสามารถระดมทุนได้ถึงสามล้านกว่าบาท ใน 5 วัน! หลังจากนั้น Tim ได้ร่วมมือกับ Joey Zwillinger ซึ่ง co-founder ของ Allbirds อีกคน ร่วมระดมมันสมองในการผลิตรองเท้าแบรนด์นี้ขึ้นมา สุดท้ายแล้ว Allbirds ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 2016
พูดถึงเรื่องความเป็นมาของแบรนด์แล้ว มาถึงเรื่องรองเท้ากันบ้าง ที่เขาเคลมกันว่าเป็นรองเท้าที่ใส่สบายที่สุดในโลกนี่มันยังไง รองเท้าของ Allbirds ส่วนใหญ่เน้นผลิตรองเท้าประเภทสนีกเกอร์ และพึ่งมาผลิตรองเท้าสำหรับวิ่งไม่นานนี้เอง ถามว่าทำไมหลายคนถึงเคลมว่าใส่สบายที่สุดในโลก
ก็เพราะวัสดุที่นำมาผลิตรองเท้านั้น เน้นไปที่วัสดุธรรมชาติ ผ้าที่นำมาทำอัปเปอร์เป็นผ้าขนสัตว์ (Wool) ซึ่งเขาบอกว่าเป็นขนแกะ ระดับเดียวกับแบรด์ใหญ่ ๆ ของโลกเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังใช้วัตถุดิบอย่างอ้อย และต้นยูคาลิปตัส เป็นส่วนผสมในการผลิตรองเท้าอีกด้วย

เห็นวัตถุดิบธรรมชาติอย่างนี้ ขั้นตอนการผลิตรักษ์โลกอีกด้วยนะ รองเท้าทุก ๆ คู่จะมีการระบุปริมาณก๊าซเรือนกระจก ที่ถูกปล่อยออกมาในการผลิตรองเท้ารุ่นนั้น ๆ นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ของรองเท้ายังย่อยสลายได้ง่ายอีกด้วย รองเท้าของ Allbirds ยังมีความทนทาน รักษาได้ง่าย เพียงแค่ใส่ถุงซักผ้าโยนลงเครื่องปั่นง่าย ๆ เลย แถมรองเท้ายังการันตีความนุ่มแบบไม่ต้องใส่ถุงเท้าอีกด้วย
รองเท้าวิ่งของ Allbirds ในตอนนี้ออกมาด้วยกัน 2 รุ่น นั่นคือ Wool Dasher Mizzles และ Tree Dashers ซึ่งมีสำหรับผู้ชาย และผู้หญิง ในรุ่น Wool Dasher Mizzles ตัวอัปเปอร์ทำจากขนแกะ เหมาะสำหรับการวิ่งในอากาศเย็น กันน้ำได้ดี ด้วยเทคโนโลยี Puddle Guard™ ที่สามารถทำให้เราวิ่งย่ำในพื้นที่ที่มีน้ำแอ่งน้ำ ได้อย่างไม่ต้องกังวลว่ารองเท้าจะเปียก เก็บความอบอุ่นให้กับเท้าของเรา กันลื่นได้ดี
นอกจากนี้ยังคืนแรงให้กับนักวิ่งได้ดี ตัวคุชชั่นสร้างมาเพื่อคืนแรง และลงน้ำหนักได้อย่างมั่นคง ตัว Allbirds มีเทคโนโลยีด้านมิดโซลของเขาเหมือนกันนะ นั่นคือ SweetFoam™ แถมรักษ์โลกอีกต่างหาก ใช้ EVA ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อย ตัวรองเท้ารุ่นนี้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 10.4 KG CO2E ราคาอยู่ที่ประมาณ 4,075 บาท มีด้วยกัน 2 สี คือสีโทนเทา และสีโทนเขียว
ส่วนอีกรุ่น ที่พึ่งออกมาไม่นานนี้อย่าง Tree Dashers เป็นรองเท้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติที่ทนทาน และระบายอากาศได้ดี ตัวมิดโซลทำมาจากต้นอ้อยเชียวนะ ตัวนี้เขาเคลมว่าซัพพอร์ตเต็มที่ ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกด้วย และยังยืดหยุ่นในทุกการเคลื่อนไหว
รุ่น Tree Dashers ทดสอบมาแล้วว่าสามารถวิ่งได้หลายพันไมล์ ใช้นักวิ่งในการทดสอบกว่า 50 คน ตลอด 1 ปี เพื่อเก็บผลสถิติของรองเท้า ตัวอัปเปอร์ใช้เส้นใยจากต้นยูคาลิปตัส ข้อดีของเส้นใยนี้คือเบา ระบายอากาศ และยืดหยุ่นได้ดี มิดโซลที่บอกทำจากอ้อย คือตัวเทคโนโลยีเดียวกับในรุ่น Wool Dasher Mizzles นั่นคือ SweetFoam™ คุณสมบัติเหมือนกันเลยใน 2 รุ่น
แต่รุ่นนี้มีแตกต่างจากรุ่นแรกนะ เพราะเขามี ZQ Merino wool เป็นตัวช่วยในการซัพพอร์ตส้นเท้า ล็อกเท้าของเราให้ไม่ให้เคลื่อนที่ รุ่นนี้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 9.0 KG CO2E ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,773 บาท มีถึง 14 สีด้วยกัน
ใครที่อยากได้รองเท้า Allbirds มาใส่สักคู่ ตอนนี้วางขายในบางประเทศเท่านั้น อาจจะต้องฝากใครหิ้วมา หรือสั่งทางออนไลน์แทนไปกันก่อน ในอนาคตเราอาจจะเห็นรองเท้าวิ่งแบรนด์นี้ เป็นที่แนะนำในหมู่นักวิ่งกันมากขึ้นก็ได้
ภาพ: Allbirds
อ้างอิง:
Allbirds
Allbirds
รู้จัก “Allbirds” แบรนด์รองเท้าน้องใหม่ที่ใส่สบายที่สุดในโลก