London Marathon ประกาศแผนดูแลความปลอดภัยของนักกีฬาตลอดช่วงแข่งขัน ด้วย “Biosecure Bubble”
อย่างที่เรารู้กันว่า London Marathon ได้ประกาศวันแข่งขันอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 4 ตุลาคม 2563
ซึ่งเปลี่ยนเป็นการวิ่งแบบเวอร์ชวลรัน และแข่งในสนามสำหรับประเภทอีลิทเท่านั้น โดยใช้เส้นทางการวิ่ง มาวิ่งในสวนสาธารณะ St James’ Park (เซนต์เจมส์ปาร์ก) ติดกับพระราชวัง Buckingham แทน
แมทช์การแข่งขันนี้ เป็นที่จับตามองกันทั่วโลก เพราะเป็นการประชันระหว่าง Eliud Kipchoge (KEN) และ Kenenisa Bekele (ETH) ที่จะเผชิญหน้ากัน การแข่งขันครั้งนี้บีบหัวใจผู้ชมอย่างรุนแรง เพราะว่า Eliud Kipchoge จะมาป้องกันแชมป์ตัวเองที่ทำไว้เมื่อปีที่แล้ว จริงๆ แล้วเฮียแกทำแชมป์ไว้ในปี 2015, 2016, 2018 ด้วย ส่วน Kenenisa Bekele นั้นเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งแชมป์ ด้วยความเร็วที่เกือบๆ เท่า Kipchoge ทำให้การแข่งขันครั้งนี้โคตรน่าจับตามองมากๆ
ด้านแชมป์หญิงและเจ้าของสถิติโลก Brigid Kosgei (KEN) จะลงแข่งขันครั้งนี้เช่นกัน ส่วนสองนักกีฬาวีลแชร์มาราธอนที่ดีที่สุดในโลก Daniel Romanchuk (USA) และ Manuela Schar (SUI) ก็ชวนกันมาประชันฝีมือใน London Marathon เห็นรายชื่อนักกีฬาระดับโลกแล้ว บอกเลยว่า St James’ Park ลุกเป็นไฟแล้วจ้า
มาดูกันที่มาตรการการป้องกันโควิด-19 กันบ้าง
นักกีฬาและผู้ติดตามจะถูกตรวจโควิด-19 อย่างเข้มงวด ตั้งแต่ก่อนเดินทางมากจากประเทศตัวเอง มายังที่พัก และการเข้าแข่งขัน
นักกีฬาจะได้รับการทดสอบ โควิด-19 ในประเทศต้นทาง 4 วันก่อนเดินทาง และตรวจอีกครั้งที่เดินทางมาถึงโรงแรม
ระหว่างนั้นก็ถูกตรวจซ้ำทุกวันจนถึงวันแข่ง ใครที่ถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 และแสดงอาการ จะถูกกักบริเวณทันที
และไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้
ส่วนโรงแรมของเหล่านักกีฬานั้น ผู้จัดได้เลือกโรงแรมที่อยู่นอกกรุงลอนดอนให้นักกีฬา และเจ้าหน้าที่ได้พักมีขนาดพื้นที่ 40 เอเคอร์ ซึ่งนักกีฬาจะสามารถฝึกในช่วงสัปดาห์การแข่งขันได้ โดยอยู่ภายใต้มาตรการการป้องกันอย่างดี ด้วยเทคโนโลยี Biosecure Bubble และต้องปฎิบัติตามกฎ Social Distance อย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นเวลาฝึกซ้อม กินข้าว และพักในห้องส่วนตัว
วันแข่งขัน จะไม่มีผู้เข้าชม และปิดกั้นไม่ให้ผู้คนเข้าถึงพื้นที่ การแข่งขันตลอดระยะเวลาที่นักกีฬากำลังแข่งขัน เหล่าอีลิทจะร่วมฟาดฟันกันในสวนฯ ซึ่งวิ่งวนไป 19 รอบ (1 รอบ = 2.15 กิโลเมตร) และอีก 1,345 เมตร เพื่อเข้าสู่เส้นชัยที่ THE MALL ถนนหน้าพระราชวัง Buckingham
ส่วนใครที่อยากติดตามการแข่งขันตลอด 8 ชั่วโมงนั้น ทาง BBC กำลังวางแผนถ่ายทอดสดกิจกรรม และขอให้ทุกๆ คนที่สนใจดูการแข่งขันนี้ ส่งกำลังใจและเชียร์อีลิทจากทางบ้านแทน
ปีนี้เอง ถือว่าเป็นการแข่งขันมาราธอนที่ต้อง จดบันทึกลงในประวัติศาสตร์ครั้งที่ 40 ของ London Marathon
เพราะนี่คือครั้งแรกที่มีการจัดการแข่งขัน ให้เฉพาะเหล่านักกีฬาเทพเท้าไฟเท่านั้น ส่วนนักวิ่งคนอื่นๆ ที่ได้ตั๋วเข้าร่วม London Marathon 2020 ก็จะได้วิ่งแบบออนไลน์จากที่ไหนก็ได้ เพื่อวิ่งคู่ขนานไปกับการแข่งขัน นับเป็นเรื่องราวของการแข่งขันที่พวกเราทั่วโลกจะไม่มีวันลืมเลย
อ้างอิง : https://bit.ly/3moOXQk
