ใครจะมาแทนคิปโชเก้?! ใน BMW BERLIN MARATHON 2019

3096

เกือบหนึ่งปีหลังสถิติมาราธอนบันลือโลกถูกเซตขึ้นที่ซุ้มประตูชัยบรันเดินบวร์ค (Brandenburg Gate) จากฝีเท้าของนักวิ่งมาราธอนที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา แต่เบอร์ลินมาราธอนปีนี้จะไม่มีเขาในสนามแข่งขัน นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับกองเชียร์เบอร์ลิน ที่คิปโชเก้ต้องติดภาระกิจสำคัญใน INEOS 159 ซึ่งเป็นงานพิเศษเพื่อสร้างมนุษย์คนแรกที่จะวิ่งมาราธอนต่ำกว่า 2 ชั่วโมงให้สำเร็จ หลังจากพลาดไป 26 วินาทีจาก Monza Breaking 2 เมื่อสองปีก่อน ครั้งนี้ คิปโชเก้ กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดในชีวิตคงไม่อยากพลาดเป็นคำรบสองแน่นอน

แต่นักวิ่งมาราธอนชั้นดี ไม่ได้มีเพียงเคนย่าชาติเดียว แม้สถิติการทุบสถิติโลก 4 ครั้งหลังสุดในสนามนี้ จะเป็นของหนุ่มชาวเคนย่าทั้งหมดก็ตาม ได้แก่

1. Patrick MAKAU ทำเวลา 2:03:38 ชั่วโมง (2011) วิ่งฉีก Haile Gebrselassie ยอดนักวิ่งยุคมิลเลเนียมจากเอธิโปเปียในช่วงกิโลเมตรที่ 30 ด้วยการใช้สปีดวิ่งสลับฟันปลา ดึงให้แชมป์เก่าหมดแรงจนจุก และต้องออกจากการแข่งขันไปในที่สุด

2. Wilson KIPSANG ทำเวลา 2:03:23 ชั่วโมง (2013) หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่าหนุ่มโย่งคนนี้เป็นนักวิ่งมาราธอนเพียงคนเดียวในโลกที่เอาชนะ Kipchoge ได้ในสนามมาราธอน 11 สนาม เรื่องมันเกิดในปีนั้น ที่คิปแซงกระชากความเร็วรวดเดียว และครั้งเดียวก่อนวิ่งหนี Kipchoge เข้าเส้นชัยห่างกันถึง 40 วินาที และมันเป็นครั้งเดียวจริง ๆ ที่ Kipchoge พ่ายแพ้ในสนามมาราธอน

3. Dennis KIMETTO ทำเวลา 2:02:57 ชั่วโมง โลกได้บันทึกประวัติศาสตร์มาราธอนใหม่เป็น Sub 2:03 โดยมี Kimetto เป็นคนปักหมุดสำคัญนี้ อดีตหนุ่มเลี้ยงวัวในทุ่งหญ้าเมือง Eldoret ซึ่งกระชากเกมส์ในกิโล 38 และวิ่งลู่เข้าเส้นชัยไปพร้อมสถิติโลกทิ้งให้ Emmanuel Mutai เพื่อนร่วมชาติรับอันดับสองไปอย่างเจ็บปวดทั้งที่เวลาของมูไตก็อยู่ในข่างทำลายสถิติโลกเดิมเช่นกัน (2:03:13 ชั่วโมง)

4. Eliud KIPCHOGE ทำเวลา 2:01:39 ชั่วโมง นักวิ่งไอดอลของชาวมาราธอน รูปเกมไม่ต้องพูดถึง เพราะวิ่งฉีกออกไปหล่อ ๆ กับเพซเซอร์สนาม ทิ้งคู่แข่งคนอื่น ๆ แบบไม่ต้องสืบเสาะเพราะต่างระดับกันค่อนข้างมาก วิ่งเข้าเส้นชัยหล่อ ๆ พร้อมทุบสถิติโลกเดิมไปถึง 78 วินาที ซึ่งเป็นช่องว่างการทุบสถิติมาราธอนที่มากที่สุดในรอบ 50 ปีทีเดียว

สำหรับ BMW Berlin Marathon 2019 ปีนี้ เน้นไปที่กลุ่มของเอธิโอเปีย โดย Elite Runner ที่เชิญมารอบนี้ จัดเป็นตัวจี๊ดของคู่แข่งเคนย่าทั้งสิ้น และทุกคนอยู่ในฟอร์มที่จัดจ้านเพราะวิ่งต่ำกว่า 2:05 ชั่วโมงกันทุกคนสบาย ๆ รายชื่อที่น่าจับตามอง ได้แก่

1. Leule GEBRSELASSIE (PB: 2.04.02 / Dubai Marathon 2018) อายุ 25 ปี

เจ้าของ Debut Marathon (มาราธอนแรก) อันดับ 3 ของโลกคนนี้เป็นสายสู้สุด ๆ ไล่กันจนกว่าจะหมดกันไปข้างหนึ่ง ปีนี้ Gebrselassie ลงแข่ง World Majors เป็นครั้งที่สอง หลังจากสนามแรกที่ลอนดอน โดนคิปโชเก้เผาเครื่องพังหลุดไปตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งทาง คิดว่าน่าจะพร้อมมากทีเดียวสำหรับสนามนี้

2. Birhanu LEGESE (PB: 2.04.15 / Dubai Marathon 2018) อายุ 24 ปี

แชมป์โตเกียวมาราธอนจากต้นปี เลือกเบอร์ลินเป็นสนามเก็บแต้ม (และเงินรางวัล) หลังจากเคยมาคว้าแชมป์เบอร์ลิน ฮาล์ฟมาราธอนที่นี่มาแล้วในปี 2015 ปีนี้ไม่มีก้างชิ้นใหญ่อย่างคิปโชเก้ ถ้ารูปเกมไม่ซัดกันโหดมากจนพัง เราอาจจะได้เห็นหมอนี่คว้าแชมป์เมเจอร์อย่างเบอร์ลินไปตั้งโชว์ที่บ้านก็ได้

3. Guye ADOLA (PB: 2.03.46 / Berlin Marathon 2017) อายุ 28 ปี

รองแชมป์จากปี 2017 ที่โซ้ยความเร็วไปกับแชมป์อย่างคิปโชเก้ได้ถึง 40 กิโลเมตร ก่อนจะพ่ายแพ้ความเก๋า และจบอันดับสองอย่างน่าเสียดาย ปีนี้ยังค้นฟอร์มเก่งไม่เข้าที่หลังจากโชว์ฟอร์มวิ่งตามคิปโชเก้เมื่อสองปีก่อนไปแล้วเพิ่งจะเก็บแชมป์ฮาล์ฟมาราธอนไปได้ครั้งเดียวเท่านั้น แถมยังไม่เคยวิ่งมาราธอนครั้งที่สองที่ไหนอีกเลย แอบคิดว่าน่าจะฝืด ลุ้นยากสักหน่อย

4. Sisay LEMMA (PB: 2.04.08 / Dubai Marathon 2018) อายุ 28 ปี

เป็นอีกคนหนึ่งที่ยังไม่เคยขึ้นโพเดี้ยมใน World Majors แต่ยังมีสถิติระดับ 2:04 ชั่วโมงให้ชื่นใจในสนาม หลัง ๆ Lemma มีสไตล์วิ่งแบบเกาะกลุ่ม และหาจังหวะดี ๆ ทิ้งความเร็วยาว ๆ ตัดสินเกม ไม่นิยมลากมาแล้วใช้สปีดเก็บกันในกิโลท้าย ๆ ที่หน้าเส้นชัย ถ้าเกมลากกันหนัก ๆ ก็มีโอกาสแหวกเพื่อน ๆ มารับแชมป์แรกได้เหมือนกัน

ปีที่แล้วในสนามเบอร์ลินนี้ มีหนุ่มเอเซียวิ่งเข้าเป็นอันดับที่ 4 ด้วยนะ เป็นหนุ่มญี่ปุ่นที่แข็งแกร่งอย่าง Shogo Nakamura วิ่งตะบึงตามหลังอดีตเจ้าของสถิติโลกอย่างวิลสัน คิปแซงเพียง 2 นาทีเท่านั้น ใช้เวลาไป 2.08.16 ชั่วโมง แต่ปีนี้น่าเสียดายที่ Japanese Elite ส่วนมากติดภาระกิจในการคัดตัวเข้าแข่งโอลิมปิก 2020 ซึ่งแข่งในเวลาไล่เลี่ยกันกับเบอร์ลิน ทำให้อดเชียร์เอเซียด้วยกันอย่างน่าเสียดาย

ภาพ:
Elmundo
NOS
Flotrack
Primorske
The National