เคล็ดไม่ลับ…วิ่งยังไงไม่ให้อ้วน

24209

หลายคน #วิ่งเพราะอยากลดความอ้วน ได้ภาพสวยน่ารัก หุ่นดี เหงื่อเต็มหน้า เอ๊กซ์ฝุดๆ 😂 แต่ทำไม ยิ่งวิ่ง เค้ายิ่งอ้วนอะเตง? 😅 เค้าทำไรผิดหรอ? เพื่อนๆนักวิ่งคนเคยอ้วนทั้งหลายของเรา ช่วยกันถ่ายทอดบทความนี้มาเพื่อคุณเลยจ้า..

เรื่องสำคัญสุดเลย
ในการวิ่งเพื่อลดความอ้วน 
คือความเข้าใจ
ที่เราอ้วน เพราะเรารวยไขมันค่ะ 
เรามีอันจะกิน 😅
พวกเราก็เลยมีไขมันสะสม
ฝากประจำ ไม่ถอน
สะสมไว้เยอะเกินไปนิดนึงค่ะ 
ดังนั้นการวิ่งเพื่อลดความอ้วน 
เราจึงเน้นการเบิอร์นไขมันค่ะ 
วิ่งแล้วให้ไขมันมันโดนเผาผลาญไป 
ยิ่งหมดไปเยอะๆยิ่งผอมลงจ้า

ร่างกายเราเป็น ระบบ Hybrid คุณหมอโยะชิโนะริ นางุโม (Yoshinori Nagumo) เขียนบอกไว้ในหนังสือ  “ยิ่งหิวยิ่งสุขภาพดี” คือ บางจังหว่ะร่างกายจะเผาไขมันเพื่อเปลียนเป็นพลังงาน ในบางจังหว่ะร่างกายจะเผาน้ำตาลมาเป็นพลังงาน ดังนั้นการวิ่งเผื่อผอม ไม่หวังถ้วย เราจึงวิ่งที่หวังจะเผาผลาญไขมันค่ะ

ในวงการวิ่ง เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ถ้าเราวิ่งด้วย Heart Rate แถวๆ โซน 1 หรือ โซน 2 จะเป็นโซนที่ร่างกายเผาผลาญไขมันมาใช้เป็นพลังงาน แต่ถ้าวิ่ง Heart Rate แถวๆ โซน 4 โซน 5 ไป ร่างกายจะเผาน้ำตาลมาใช้เป็นพลังงานแทน

ดังนั้นการวิ่งเพื่อลดความอ้วน เราจึงไม่เน้นวิ่งเร็ว ไม่เน้นความแรง แบบที่วิ่ง HRZ4 หรือ 5 

ยิ่งเราวิ่งเร่งๆ HR zone สูงเกินไป
ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลเยอะไป.
ยิ่งน้ำตาลตก. ยิ่งวิ่งก็ยิ่งหิวค่าาาา
ยิ่งหิวเราก็ยิ่งกิน
อ้าววว แย่ละสิ ยิ่งวิ่ง ยิ่งหิว ยิ่งกิน ยิ่งอ้วน 😅
แล้วเค้าจาวิ่งไปไมเนี่ย? 😅

แล้วเราวิ่ง HRZ (Heart Rate Zone) ไหน จะรู้ได้ยังไงละคะ?

HRZ ของแต่ละคนไม่เท่ากันจ้า ขึ้นอยู่กับ อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด (ซึ่งมักจะขึ้นกับอายุด้วย) เอาเป็นว่า ถ้าอยากรู้ HRZ เอาแน่ๆชัดๆ ก็ซื้อนาฬิกาวิ่ง พวก Garmin หรือ Suunto หรือ อะไรก็ได้ที่จับ Heart Rate ได้ซักเรือนนึง (สำรวจราคาได้ที่ http://shop.thai.run/) ใส่ไปวิ่ง 

ในนั้นมันจะบอก HRZ ให้เรารู้ตลอดเวลาที่เราวิ่งเลยจ้า ถ้าเป็นแบบนั้น พอเริ่มวิ่งเกิน Zone 3 เราก็รู้ตัวละ ระบบ Hybrid ร่างกายเราเริ่ม switch ไปใช้น้ำตาลละนะ เราก็ผ่อนเครื่องหน่อย วิ่งช้าลง ให้มัน switch กลับมาที่ไขมัน แล้วก็วิ่งแบบนี้ไปเรื่อยๆจ้า

แต่ถ้าเอาแบบง่ายๆ คนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างแอด อย่าว่าแต่ตังค์จะซื้อการ์มินเลย ตังค์จะซื้อมาม่ากินปลายเดือนยังไม่ค่อยจะพอ 555 เราก็จะประมาณ HRZ เอาง่ายๆจากความเหนื่อยและเหงื่อจ้า (อันนี้แบบประมาณสุดๆนะ ห้ามใช้เป็นบรรทัดฐาน) ก็คือ ตอนวิ่งเร็วๆแล้วเหงื่อแตกพลั่กๆ ตอนนั้น HRZ ประมาณ Zone 4 โซน 5 แต่ถ้าวิ่งแล้ว มีเหงื่อซิบๆ พอจะยังคุยได้เป็นคำๆ อันนั้นก็น่าจะต่ำกว่า โซน 3 อันนี้เป็นการประมาณแบบ ประม๊าน ประมาณ นะจ๊ะ (แต่ถ้าให้ดี แอดแนะนำว่า งดมาม่าสะสมตังค์ซื้อนาฬิกาจะดีกว่าจ้า 555)

คนอ้วนแบบพวกเรามักจะเหนื่อยง่ายค่ะ (แม้ว่าอันนี้จะเป็นเรื่องที่ไม่จริง เพราะเราคิดไปเองก็ตาม) เราก็เลยไม่ควรจะวิ่งนานนัก เอาซัก 30 นาทีพอละ 

แต่…
แต่…

เคล็ดลับเรื่องนี้อยู่ที่ #ความต่อเนื่อง ค่ะ ทำวันละ 30 นาที แต่ให้ทำบ่อยๆนะ ถ้าทุกวันได้จะดีมาก ถ้าไม่ได้ก็ซักวันเว้นวันก็ยังดี ช่วงแรกๆต้องฝืนใจบังคับตัวกันหน่อย แต่เชื่อแอดเถอะค่ะ ไม่นาน ซัก 2-3 อาทิตย์ ร่างกาย เราจะรู้สึกติดการวิ่ง หรือที่นักวิ่ง เรียกกันว่า Runner’s High (อาการเมามายติดการวิ่ง) แล้วตอนนั้นเราจะ อยากวิ่งขึ้นมาเองเลย ไม่ต้องบังคับก็อยากไปวิ่งเอง

สาระของเทคนิคข้อนี้ อยู่ที่ #ความสม่ำเสมอ เพราะไขมันที่ถูกเผาผลาญไป มันจะถูกเติมกลับมาสู่ร่างกายอีกครั้ง โดยการเปลี่ยนนำ้ตาลที่เรากินเข้าไปใหม่มาเป็นไขมันสะสมอีก (เราคนมีอันจะกิน ก็งี้หล่ะค่ะ คริคริ พวกเราสะสมไขมันแทนเงินในธนาคารค่ะ 5555) 

ดังนั้นความสม่ำเสมอ ช่วยคุณได้ ถ้าคุณเบิร์นมันออกไปทุกวัน ในอัตราที่มากกว่าปริมาณที่มันเข้ามาสะสมใหม่ ผลลัพธ์คือ #งบดุลไขมันจะเป็นลบ ไขมันโดยรวมในตัวคุณก็จะค่อยลดลงเรื่อยๆ ลดลงอย่างสุขภาพดี ลดลงแบบไม่ต้องใช้ยา 

เทคนิคจำง่ายๆในการวิ่งลดความอ้วน 
คือ #วิ่งช้าๆวิ่งบ่อยๆ

วิ่งไปด้วยกัน แข็งแรงไปด้วยกัน อยู่รักกันไปนานๆนะ

#ThaiRun, คิดถึงการวิ่ง คิดถึงไทยรัน. 
____________________________
Original post  ©ThaiRun
โดย #HappyMonster นักเขียนประจำเพจไทยรัน
Photo Credit : น้องแครอท
เสื้อวิ่ง Run to Berlin (VR) สมัครได้ที่ http://race.thai.run/berlinvr