ฮาร์ท-อนันต์ นักวิ่งเจ้าของแฮชแทค “วิ่ง20kmให้เป็นขนม”

13664

บ่ายแก่ ๆ เกือบทุกวัน ที่สวนลุมพินี เราจะมองเห็นผู้ชายคนหนึ่ง วิ่งเท้าเปล่า ด้วยท่าวิ่งที่สวยสะดุดตา สเต็ปการลงเท้าซ้าย ขวา กับความเร็วสม่ำเสมอและแข็งแรง จังหวะเคลื่อนไหวเผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อขาที่ชัดเจน

เขามักทักทายผู้คนที่วิ่งผ่านไปมา “สวัสดีครับน้อง” “วิ่งสิ วิ่งช้า ๆ อย่างเพิ่งเดิน” ฯลฯ คำพูดทักทายชวนให้กำลังใจนักวิ่งที่มักได้ยินระหว่างการซ้อม รอบสวนลุมพินีของ อนันต์  มีบ่อทรัพย์ หรือ ฮาร์ท ปัจจุบันรับราชการ และเป็นโค้ชสอนฟุตบอลตำแหน่งผู้รักษาประตูของทีมเยาวชนแห่งหนึ่ง และเป็นเจ้าของ  #วิ่ง20kmให้เป็นขนม

ทำไมต้องวิ่ง “20kmให้เป็นขนม” ?

คำถามแรกที่เราคุยกับเขาระหว่างการซ้อมวิ่งที่เป็นปกติในทุกวัน “เราคิดว่า ถ้าจะทำอะไรบางอย่างให้ดูง่าย ต้องหาอะไรเปรียบเทียบกับสิ่งที่ง่าย เช่น ‘ขนม’ มันกินง่าย เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับการวิ่ง ก็จะทำให้ดูง่ายขึ้น”

ฮาร์ท อธิบายต่อไปว่า สำหรับ 20 กม. คือระยะเป้าหมายการวิ่งทุกครั้ง โดยเริ่มทำอย่างสม่ำเสมอมาตั้งแต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา

“ก่อนหน้านี้เราวิ่งครั้งละ 10-15 กม. อาทิตย์ละ 3-4 วัน โดยที่เรามีเวลาอยู่ราว ๆ 2 ชม. วิ่งเสร็จก็ยืนคุยกับเพื่อน เรากลับมาคิดว่าเวลา 2 ชม. ถ้าเราวิ่งช้า ๆ ตามเพซ (pace) และคุยกับเพื่อนไปด้วย น่าจะใช้เวลาอย่างคุ้มค่ากว่า ก็เลยเริ่มวิ่งไปด้วย คุยไปด้วย ในเวลาที่เบิกจากคนทางบ้าน (ฮ่าๆ) ประมาณ 2 ชม. ก็ได้ระยะ 20 กม. พอดี (เพซเฉลี่ย 6.0 – 6.30)”

เขาบอกคอนเซ็ปต์การวิ่งของตัวเองว่า  “ช้าให้เป็น เร็วไม่ได้” วิ่งโดยไม่แข่งขันกับใครนอกจากตัวเอง เป้าหมายที่ตั้งไว้ก็เพื่อเรียนรู้ร่างกายตัวเองเท่านั้น และเราก็ได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ เผื่อวันหนึ่งที่จะลงวิ่งระยะ 100 กม. พื้นฐานของร่างกายก็พร้อมสำหรับการวิ่งไกล

‘วิ่ง’ โดยไม่มีข้ออ้าง

นอกจากรับราชการแล้ว  “ฮาร์ท” หรือ “โค้ชฮาร์ท” ยังเป็นผู้ฝึกสอนตำแหน่งผู้รักษาประตูของทีมฟุตบอลเยาวชน โดยใช้เวลาสอนตั้งแต่ 16.00 – 18.00 น. หรือ 17.00 -19.00 น. เกือบทุกวัน และเขาจะใช้เวลาหลังสอนฟุตบอลมาวิ่งที่สวนลุมพินี

“เราสอนฟุตบอลเสร็จก็รีบกลับบ้าน สิ่งที่แรกที่คิด คือ ชุดวิ่งเรามี รองเท้าไม่เป็นไร (วิ่งเท้าเปล่าได้) แล้วออกมาที่สวนลุมพินี โดยใช้เวลาวิ่งครั้งละ 2 ชม. อาทิตย์หนึ่ง 3-4 วัน  ถามว่าเบื่อไหมวิ่งวน ๆ อยู่แบบนั้น…ไม่เบื่อนะ แต่ละรอบที่วิ่งบรรยากาศไม่เคยเหมือนกัน ผู้คนทยอยกันเข้ามาตามช่วงเวลา ได้เจอคนนั้น คนนี้ ทำให้เราสนุกไปกับมัน

ประเทศไทยมีแค่ 2 ฤดู ร้อนกับฝน วันนี้ร้อน พรุ่งนี้ก็ร้อน วันนี้ฝนตก พรุ่งนี้ก็ตก เราไม่มีข้ออ้างหรอก ถ้าร้อนก็วิ่งเข้าที่ร่ม ๆ หรือมาช่วงเย็น ๆ หน่อย ถ้าฝนตก ก็รอให้ตกเบา ๆ แล้วก็วิ่ง…ก็เท่านั้น”

วิ่งเท้าเปล่า เพื่อเรียนรู้

บางวันเราจะเห็นเขาวิ่งใส่รองเท้าแบบรองเท้า 5 นิ้ว (Five fingers) บ้าง รองเท้าปกติบ้าง และไม่ใส่รองเท้าบ้าง จนเป็นที่สะดุดตาของนักวิ่งภายในสวน

“เราเป็นนักฟุตบอล เวลาใส่รองเท้าสตั๊ดจะวิ่งลงส้นเท้า แล้วมันสะเทือน เราเจอเพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้ใช้รองเท้า 5 นิ้ว (รองเท้าเสมือนวิ่งเท้าเปล่า) และฝึกด้วยการวิ่งเท้าเปล่า แรก ๆ มันจะลำบากหน่อย เพราะใช้กล้ามเนื้อคนละส่วนกับการวิ่งโดยใส่รองเท้า แต่นั่นคือการวิ่งแบบธรรมชาติที่สุด เมื่อเราวิ่งโดยท่าทางธรรมชาติ นอกจากท่าทางการวิ่งจะสวยแล้ว ยังไม่บาดเจ็บด้วย แต่ต้องฝึกให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นแข็งแรงนะ

เมื่อติดใจการวิ่งแบบเท้าเปล่า หรือการใส่รองเท้า 5 นิ้ว ก็วิ่งแบบนี้มาตลอด ทำให้เราใช้กล้ามเนื้อของตัวเองล้วน ๆ ในการวิ่ง แล้วเราจะได้ท่าวิ่งที่เป็นธรรมชาติของตัวเอง ท่าวิ่ง…เลียนแบบใครไม่ได้หรอก เราวิ่งแบบคนที่ท่าสวย แต่อาจจะไม่เหมาะกับชีวกลร่างกายเรา ให้ร่างกายเรานั่นล่ะจัดท่าทางที่เหมาะสมให้ตัวเราเอง แล้ววิ่งให้มีความสุข จำท่าทางที่ลงเท้าแบบไม่เจ็บนั้นไว้ เมื่อใส่รองเท้าธรรมดาวิ่งก็วิ่งท่านั้น”

บาดเจ็บบ้างไหม ?

เป็นธรรมดาของการวิ่งที่จะต้องมีบาดเจ็บกันบ้าง ไม่ส่วนใดก็ส่วนหนึ่ง แต่สำหรับ ฮาร์ท เขาวิ่งแบบเรียนรู้ตัวเองมาตลอด อาการบาดเจ็บแทบไม่เคยเกิดขึ้น

“ไม่เคยบาดเจ็บจากการวิ่ง แต่บาดเจ็บจากการเล่นบอล (ฮ่าๆ) สิ่งสำคัญ เราควรเรียนรู้ร่างกาย ว่าวิ่งแบบไหน จังหวะแบบไหน ความเร็วแบบไหนที่ทำให้เราไม่เจ็บ และวิ่งแบบมีความสุข

ถามลุง ๆ ที่วิ่งในสวนดูสิ เขาวิ่งมา 20-30 ปี แต่เขาไม่เคยบาดเจ็บเลย เพราะเขาวิ่งโดยไม่ได้แข่งกับใคร บางวันแม้สภาพใจเราไม่พร้อม แต่เมื่อได้ลองวิ่งไปสัก 2 กม. มันก็จะวิ่งต่อไปได้เอง”

วินัยที่มี เพราะเป็นโค้ชฟุตบอลหรือเปล่า?

เขาบอกว่า สำหรับเรา วินัยที่เกิดขึ้น เป็นเพราะตัวเราเองมากกว่า เราชอบออกกำลังกาย ซึ่งมันดีกว่าอยู่เฉย ๆ วันนี้เรามีแรง มีกำลัง มีเวลา ก็มาออกกำลังกาย เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ไม่อยากทำตอนสูงอายุ เพราะมันสายไปแล้ว ในหัวเราทุกคนมีมารดำ มารขาวอยู่ห่างกันแค่เส้นบาง ๆ เท่านั้นเอง บางทีมันก็ตีกันในหัวนะ เราเลยใช้วิธีการ กลับไปถึงบ้าน เปลี่ยนชุดวิ่ง แล้วออกจากบ้านเลย ถ้านั่งแช่..ไม่ได้ไปหรอก

เรียนรู้อะไรจากการวิ่ง

ประมาณ 5 ปีที่อยู่ในวิถีการวิ่ง ฮาร์ท เรียนรู้ว่า การวิ่งสอนให้เขามองโลกกว้างขึ้น เพราะทุกก้าวที่วิ่ง ได้เจอผู้คนมากมาย วิ่งไป คุยไป หรือการหยุดคุยกับเพื่อน ๆ ระหว่างพัก ทำให้เขาได้แลกเปลี่ยนมุมมองที่หลากหลาย ระเบียบวินัยดีขึ้น เมื่อก่อนเจอเพื่อนก็ดื่มอย่างเดียว แต่ตอนนี้ต้องไปวิ่งก่อน ถึงจะดื่มได้ สร้างวินัยและเงื่อนไขในเรื่องการออกกำลังกายให้ตัวเอง และดื่มพอประมาณ เพื่อให้ตารางชีวิตไม่เสียหาย เต็มที่กับการออกกำลังกาย บางวันก็วิ่งไปสอนจากบ้านถึงสนามฟุตบอลประมาณ 20 กม. แล้วก็สอนต่อ 2 ชม. ถ้าไม่เหนื่อยไป ก็จะวิ่งกลับบ้านอีก 20 กม.

“เราเรียนรู้ และทำสิ่งเหล่านี้จากความสนุก ถ้าเราทำอะไรก็ตามด้วยความสนุก เวลาสำหรับสิ่งนั้น ๆ จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความสุขที่ได้คือ จิตใจดี ร่างกายแข็งแรง สวนลุมพินีสำหรับเรา คือ สวนสนุก ได้ใช้เวลากับเพื่อนให้เป็นประโยชน์ ด้วยกิจกรรมที่เรารัก”

ถ้ามีนักวิ่งอยากวิ่งระยะ 42.195 กม. แนะนำให้เขายังไง

เขาแนะนำว่า ให้วิ่งตามเป้าหมายของตัวเอง โดยที่วิ่งแล้วมีความสุข “เราวิ่งระยะมาราธอนตามเพซตัวเอง วิ่งจบในเวลา 5.00 -5.30 ชม. โดยไม่ตั้งเป้าว่าจะวิ่งเร็วเกินจากนี้ เพราะเป็นความเร็วที่วิ่งแล้วมีความสุข ระหว่างทางได้มองดูผู้คน เห็นความตั้งใจของนักวิ่งที่วิ่งผ่าน เห็นการแต่งตัวของแต่ละคน เห็นรองเท้าแต่ละยี่ห้อ เห็นความสนุกสนานของกองเชียร์ ก็เต้นไปกับเขา สนุกไปกับเขา มันทำให้ฮึกเหิม “ถ้าน้องวิ่งได้ 3 ชม. อาจจะได้ภาพน้อยมาก เราวิ่ง 5 ชม. ภาพบานเลยนะ ( ฮ่าๆ)  เราต้องวิ่งให้สนุกกับมัน อย่าไปกดดัน” ฮาร์ท ทิ้งท้ายด้วยเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข

เรื่องโดย ArmMy ThaiRun

ภาพถ่ายโดย : Golf ThaiRun

ThaiRun | คิดถึงการวิ่ง คิดถึงไทยรัน